เฮียไม่เข้าใจนู๋ ... มันอยู่คนละ Generation

สวัสดี เช้าวันทำงานวันแรกของปีครับ

วันนี้เปิดประเด็นกับคำว่า...
"ปัดโธ่เอ๊ย... เด็กสมัยนี้ ไม่ได้เรื่องซักอย่าง"

คุ้นหูกันไหมครับ แต่เชื่อไหมครับ คำว่า "เด็กสมัยนี้" ไม่ได้พึ่งเกิดมาในสมัยนี้หรอกครับ คำนี้ เป็นคำมาตรฐาน ที่ผู้ใหญ่ใช้กันทุกรุ่น ตั้งแต่ รุ่นเราเป็นเด็ก และรุ่นของเราที่กำลังว่าเด็กรุ่นถัดไป

พูดง่ายๆ นับวัน คนที่เป็นวัยผู้ใหญ่ ก็จะรู้สึกว่า วัยถัดไป มาตรฐาน มันแย่ลง!!!
แต่ในความจริงแล้ว มันไม่ได้แย่ลงซะทีเดียวหรอกครับ แต่สังคมมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ดังนั้น จึงมีคำที่กล่าวให้เข้าใจง่าย ด้วยคำว่า "Generation" หรือรุ่นของคน


ว่ากันด้วยทฤษฎีเล็กๆ ครับ เราแบ่งคนตามสากลแล้ว คนที่เดินไปมาแย่งอากาศหายใจนี้ แบ่งเป็น Generation ต่างๆ ดังนี้ ครับ
1. Baby Boom (2489 - 2507)
2. Generation X (2508-2522)
3. Generation Y หรือเรียกอีกชื่อว่า พวก Millennium (2523-2543)

ส่วนรุ่นหลังจากนี้ เป็น Generation Z (อ้างอิง)

การแบ่งคนเป็น Generation จะทำให้เรามองเห็นปัญหาการประสานงานในองค์กรได้ง่ายขึ้นครับ เพราะคนในแต่ละ Generation มีความต้องการในตัวเองแตกต่างกัน ดังนั้น เมื่อคนต่างวัย มาทำงานร่วมกัน คำว่า "ไม่ได้เรื่อง" จึงเกิดขึ้นมาได้ง่ายดาย แต่การเข้าใจถึงความต้องการของแต่ละวัย แล้วปรับให้เข้าถึงจุดตรงกลางซึ่งกันและกันได้ จึงจะเป็นการดีครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราอยู่ในสภาวะที่คนรุ่น Gen X. ดูแลกิจการ มีคน Gen B. เป็น Backup และมีคนรุ่น Gen Y. มาเป็นพนักงาน ผลที่ได้ก็โกลาหลดี

ถามว่าทำไม เพราะสภาพแวดล้อมของคนแต่ละรุ่นนั้น เกิดมาต่างกันครับ คนรุ่น Baby Boom เกิดมาในช่วงที่ขัดสนค่อนแค้น จึงเป็นรุ่นที่สู้ชีวิตพอสมควร คนกลุ่มนี้ ทำงานแบบไม่พัก และมีความจงรักภักดีต่อองค์กรสูง เอาง่ายๆ ตายเพื่อองค์กร

ในขณะที่คน Gen X. โตมากับการเลี้ยงดูของคนรุ่น Gen B. แต่ก็ไม่เห็นสอดคล้องกับการทำงานแบบหามรุ่ง หามค่ำอย่าง คน Gen B. คนรุ่นนี้ ก็เลย ทำงานแบบหนักก็ได้นะ แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะหนักตลอดเวลา ก็ไม่เอาเหมือนกัน เลือกทำงานแบบสมดุล และชอบฉายเดี่ยว มากกว่าการทำงานเป็นทีม

แต่คน Gen Y ก็เป็นคนในรุ่นที่สร้างมาจาก Gen X ซึ่งมีความพร้อมในการเลี้ยงดูสูง ทำให้คน Gen Y ไม่ค่อยใส่ใจต่อองค์กร และฉันก็พร้อมจะไปได้ตลอดเวลา แค่เพียงไม่ถูกใจนิดๆ หน่อยๆ ฉันก็ไม่สนใจที่จะอยู่ด้วยอีกต่อไป จนทำให้เกิดคำว่า "อย่าไปหวังอะไรกับคน Gen Y" เงินไม่ใช่ตัวที่จะบอกให้คนรุ่น Gen Y อยู่กับองค์กรได้ แต่ "ทีม" และ "คำชื่นชม" จะทำให้คน Gen Y อยู่ติดเก้าอี้ได้มากกว่า เงินทอง

ข้อดีของคนรุ่นนี้ คือ เรียนรู้เทคโนโลยีได้เร็ว ทำงานเป็นทีมได้ดี มีผลงานและความคิดสร้างสรรค์ดีมาก การให้งานจะต้องเป็นการตั้งเป้าหมาย แทนคำสั่ง เพราะคนรุ่นนี้ ก็พร้อมจะขัดคำสั่งเสมอ แต่ข้อควรระวังคือ หมดไฟ เร็วมาก ดังนั้น จึงต้องติดตามผลงานอย่างสม่ำเสมอ

พอบรรยาย มาแบบนี้ คุณจะเห็นว่า ทั้ง 3 รุ่น ต่างก็มีทั้งข้อเด่น ข้อด้อยทั้งหมด คราวนี้ ก็อยู่ที่ว่า เราเป็นคนกลุ่มไหน และคนที่ทำงานกับเรา อยู่กลุ่มไหน แล้วค่อยๆ ปรับกรรมวิธีดำเนินงานใหม่ ให้เข้ากับคนในแต่ละวัย อย่างคำกล่าวที่ว่า "รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง" ดีกว่า จะบ่นว่า "เด็ก เดี๋ยวนี้ มันไม่ได้เรื่อง" นะครับ